4 ขั้นตอน การวัด ROI สำหรับงาน L&D (Learning and Development)
สำหรับคนที่ทำงานด้าน HR โดยเฉพาะคนทำงานด้าน HRD หรือคนที่สนใจด้านการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ เราต่างก็ทราบว่า การลงทุนในเรื่อง Learning and Development (L&D) เป็นส่วนสำคัญอย่างยิ่งที่จะทำให้พนักงานมีศักยภาพสูงขึ้นเพื่อช่วยให้องค์กรเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน
อย่างไรก็ตาม เราจะต้องให้ความสำคัญและมั่นใจว่า การลงทุนในด้าน L&D นี้สร้างคุณค่าที่สำคัญและให้ผลลัพธ์ที่คุ้มค่าให้กับองค์กร
มีวิธีการวัดผลอย่างหนึ่งที่คน HRD ทั่วโลกให้ความสนใจนั่นคือการโฟกัสในเรื่องของ Learning ROI (Return on Investment) และการทำงานร่วมกัน กับที่ปรึกษาหรือบริษัทที่ให้บริการเกี่ยวกับการฝึกอบรม ที่สามารถ ให้คำแนะนำและช่วยออกแบบการประเมิน ROI ของการ เทรนนิ่ง ได้อย่างเป็นระบบ
Learning ROI เป็นการวัดผลตอบแทนในมุมมองทางการเงิน ที่ได้จากการทำกิจกรรม เทรนนิ่งและการทำกิจกรรม L&D ต่างๆของบริษัท โดยการวิเคราะห์เปรียบเทียบ คุณค่าที่ได้รับ กับ สิ่งที่ได้ลงทุนไป ซึ่งการที่คน HR สามารถวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกเหล่านี้ได้ จะทำให้สามารถวางแผนในการพัฒนาคนในองค์กรให้เหมาะสมและเกิดประสิทธิภาพสูงสุด
การวัดผล ROI จากงาน L&D สามารถเริ่มทำได้ตามขั้นตอน ต่อไปนี้
- รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายที่เราได้ใช้จริงกับงาน L&D ไม่ว่าจะเป็นค่าใช้จ่ายโดยตรง เช่น ค่าการจัดกิจกรรม ค่าจ้าง ที่ปรึกษาหรือผู้สอนจากภายนอก และรวมถึงค่าใช้จ่ายทางอ้อมด้วย เช่น เวลาที่ต้องเสียไปในการนำพนักงานเข้าร่วมโปรแกรม รวมถึงค่าเสียโอกาสต่างๆ
- นิยามความคาดหวังจากการลงทุนในการทำโปรแกรมการเรียนรู้ ยกตัวอย่างเช่น การปรับปรุงประสิทธิภาพในการทำงาน การเพิ่มผลผลิต การลดต้นทุน หรือการลดจำนวนพนักงานที่ลาออก (Employee Turnover)
- ทำการติดตามและวัดผลลัพธ์ของสิ่งที่คาดหวัง โดยขั้นตอนนี้ ต้องมีการวางแผน รวบรวมข้อมูล เพื่อนำมาใช้ประกอบการวิเคราะห์และการประเมินอย่างเป็นระบบ
- คำนวณ ROI โดยที่ ROI (Return on Investment) คือการเปรียบเทียบระหว่างผลประโยชน์ที่ได้รับในเชิงตัวเลขทางการเงิน กับ ค่าใช้จ่ายที่ลงทุนไปกับกิจกรรม L&D นั้นๆ โดยค่า ROI นี้จะคำนวณในรูปแบบของร้อยละ (%)
การที่คุณทำงานร่วมกับ ผู้ให้บริการด้าน L&D ที่มีความเชี่ยวชาญในการออกแบบการประเมินผล และการคำนวณ ROI ของงาน ด้านการพัฒนาบุคคล จะช่วยทำให้หน่วยงานของคุณสามารถตัดสินใจลงทุนในสิ่งที่คุ้มค่ามากที่สุดให้กับคนในองค์กร และจัดสรรทรัพยากรได้อย่างคุ้มค่า
เหนือสิ่งอื่นใดสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ทรัพยากรบุคคล ที่มีความสามารถจะช่วยผลักดันให้เกิดผลลัพธ์ทางธุรกิจที่ดีขึ้นและสร้างความสามารถในการแข่งขันอย่างยั่งยืนให้องค์กรของเรา